ต้องยอมรับว่า อนาคตเป็นเรื่องที่ไม่มีความแน่นอนอะไรเลยจริงๆไม่ว่าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ รวมไปถึงเรื่องของเศรษฐกิจก็เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นแล้ว การที่จะทำธุรกิจก็ย่อมต้องมีกลยุทธ์อะไรหลายๆอย่างเอาไว้รับมือกับอนาคตที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าดีหรือร้าย และในบทความนี้ผมก็ได้มี กลยุทธ์ดีๆมาฝากเพื่อนๆกันให้เพื่อนๆได้เก็บเป็นความรู้เอาไว้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์นี้ที่ถูกพัฒนาขึ้นต่อยอดมาจากกลยุทธ์ส่วนประกอบทางการตลาด 4Ps และ 7Ps จนกลายมาเป็น Co – Strategy เป็นกลยุทธ์ที่ทางคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คิดค้นขึ้นมา โดยในกลยุทธ์นี้จะประกอบเป็นด้วย กลยุทธ์รวมพลังระหว่างธุรกิจ 6 อย่าง และ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปดูรายละเอียดของกลยุทธ์ที่ว่านี้กันเลยครับ
Co – Strategy กลยุทธ์การรวมพลังระหว่างธุรกิจ 6 อย่าง
มาทำความรู้จักเพิ่มเติมกันกับ Co – Strategy กลยุทธ์การรวมพลังระหว่างธุรกิจ 6 อย่างกัน และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ คราวๆ ว่า Co – Strategy นั้นเป็นกลยุทธ์ที่ถูกคิดค้นต่อยอดมาจาก กลยุทธ์ส่วนประกอบทางการตลาด 4Ps และ 7Ps ซึ่งถ้าเพื่อนๆคนไหนได้ศึกษาเกี่ยวกับ กลยุทธ์ที่ว่านี้ เพื่อนๆก็จะทราบดีว่ามันจะประกอบไปด้วย Product, Price, Place, Promotion, People, Physical Evidence และ Process
ซึ่ง Co – Strategy กลยุทธ์การรวมพลังระหว่างธุรกิจ 6 อย่าง ซึ่งใน 6 อย่างที่ว่านั้นก็จะคล้ายๆกับกลยุทธ์ ส่วนประกอบทางการตลาด 4Ps และ 7Ps แต่แตกต่างกันนิดหน่อย เพราะเป็นกลยุทธ์ที่คิดต่อยอดมา โดยทางกลยุทธ์ Co – Strategy นั้นก็จะประกอบไปด้วย Co-Price Co-Place Co-Process Co-Product Co-Promotion Co-People และด้วยที่ว่า กลยุทธ์ Co – Strategy ที่ประกอบไปด้วย Co ทั้ง 6 นี้ เป็นกลยุทธ์ที่รวมพลังระหว่างธุรกิจ นั้นจึงทำให้มันเหนือกว่า กลยุทธ์ 4Ps และ 7Ps นั้นเองและมันมีพลังมากพอที่จะทำให้เพื่อนๆสามารถผ่านวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเจอไปได้ ไม่รอช้า เราไปดูรายละเอียดของทั้ง 6 Co กันเลยดีกว่าครับ
Co-Price หรือ การปรับราคาสินค้าลง
Co ตัวแรก ที่จะพูดถึง คือ Co-Price การปรับราคาสินค้า Co ตัวนี้นั้นมีความสามารถในการดึงดูดลูกค้า เพราะปกติ กลยุทธ์ Price ใน 4Ps และ 7Ps นั้นก็ได้รับความสนใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และ เมื่อ กลายมาเป็น Co-Price นั้นแปลว่าเป็นการกลยุธ์ที่มีการเพิ่มเติมขึ้นมา คือ การรวมมือกันระหว่างธุรกิจด้วยกันและนั้น ก็จะกลายเป็นการปรับราคาที่ทำให้ลูกค้าสนใจสินค้าในราคาที่เท่าๆกันทุกๆร้านที่มีการร่วมมือกัน ไม่มีการปรับราคาที่ต่ำกว่าทุนจนเกินไปทำให้เกิดการขาดกำไร หรือเรียกง่ายๆเลยก็คือ ถ้าใช้กลยุทธ์ Co-Price จะไม่เกิดการตัดราคานั้นเอง ซึ่ง ถ้าเป็นกลยุทธ์ Price อย่างเดียว ไม่มี Co อาจจะจริงที่ทำให้ลูกค้าสนใจได้แต่ก็อาจจะเกิดปัญหาในการตัดราคากันจน ในที่สุดก็ไม่มีกำไรกันนั้นเองและไปไม่รอดในที่สุด
Co-Place หรือ ลดต้นทุนของสถานประกอบการ
Co ตัวที่ 2 ที่ผมจะพูดถึง คือ Co-Place หรือ การลดต้นทุนของสถานประกอบการ Co-Place นั้นเอง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่จะแนะนำให้เพื่อนๆที่มีธุรกิจลดต้นทุนสถานประกอบการลงโดยการรวมมือกันกับธุรกิจอื่น หรือ ธุรกิจเดียวกัน ในลักษณะเป็นพันธมิตรกัน โดยจะยกตัวอย่างให้เพื่อนๆเห็นภาพง่ายๆเลยก็คือ อย่างเช่น ในช่วงที่ผ่านมาที่มีโควิด-19 จากพนักงานขับรถแท็กซี่ก็รับงานเสริมด้วยการขับรถส่งของแทน เป็นการร่วมมือกันอย่างหนึ่ง รวมมือกันระหว่างบริษัทขนส่งสินค้ากับบริษัทรถแท็กซี่เช่าที่อนุญาติให้คนขับแท็กซี่นำรถที่เช่าไปส่งสินค้าแทนที่จะรับผู้โดยสาร
เนื่องจากโควิด-19 ผู้โดยสารน้อยลงนั้นเองและผู้คนอยู่บ้านและช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น บริษัทขนส่งก็พนักงานส่งของไม่พอ เป็นการช่วยทีช่วยอาศัยกัน หรือจะเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง เช่น ร้านอาหาร สมมุติเหมือนก่อนที่จะเกิดโควิด-19เคยเปิดร้านอาหารจำนวนโต๊ะ 40 โต๊ะ อาจจะลดปริมาณโต๊ะลง 20 โต๊ะ และปล่อยอีก 20 โต๊ะให้ร้านอาหารประเภทอื่นที่ร้านตัวเองไม่ได้ขายเช่าก็ได้ นั้นก็เป็นการร่วมมือกันของ 2 ธุรกิจและเป็นการลดต้นทุนของสถานประกอบการเพราะจะมีอีกร้านหนึ่งมาช่วยหารค่าเช่าที่
ธุรกิจในปัจจุบันยิ่งปรับตัวได้เร็วเท่าไรยิ่งมีโอกาสเติบโตได้มากขึ้นเท่านั้น
และทั้งหมดในเนื้อหาบทความนี้ คือ กลยุทธ์ Co – Strategy 2 ใน 6 Co นั้นเอง ซึ่งเพื่อนๆก็คงจะเห็นกันแล้วนะครับ ว่า กลยุทธ์ Co – Strategy มีความคล้ายกับกลยุทธ์ธุรกิจ 4Ps และ 7Ps แต่ก็ไม่เหมือนสักทีเดียว แถมยังมีประสิทธิภาพ คุณภาพ และพลังมากกว่า อีก ถ้านำมาเปรียบเทียบกันแล้ว เพราะด้วย กลยุทธ์ของ Co – Strategy นั้นจะเป็นการรวมพลังกันระหว่างธุรกิจ ตรงนี้แหละ ที่ผมคิดว่าทำให้ กลยุทธ์ Co – Strategy นั้นเหนือกว่า กลยุทธ์ 4Ps และ 7Ps
หวังว่าเพื่อนๆคงเห็นด้วยกันกับผมนะครับ และสำหรับเพื่อนๆคนไหนที่สงสัยกันว่า กลยุทธ์ Co – Strategy นั้นประกอบไปด้วยทั้งหมด 6 Co ไม่ใช่หรอ ทำไม ผมถึงพูดถึงในบทความนี้แค่ 2 Co นั้นก็เพราะ อีก 4 Co ที่เหลือผมจะหยิบยกไปพูดต่อในบทความถัดไปที่มีชื่อว่า Co - Strategy ธุรกิจที่อาศัยการร่วมมือ และแบ่งปันตอบโจทย์ลูกค้าได้มากกว่า ถ้าเพื่อนๆอยากรู้เกี่ยวกับ กลยุทธ์ของ Co - Strategy อีก 4 Co ที่เหลือก็อยากลืมไปติดตามต่อในบทถัดไปกันนะครับ
นายไกรษร
อ่านไปอ่านมาตอนแรกๆก็ดูเหมือนว่าจะเข้าใจนะครับ แต่พออ่านไปสักพักก็มานั้งงครับ ว่า มันเกี่ยวกับธุรกิจของผมบ้างไหม ที่เข้ามาอ่านเพื่อจะเอามาปรับเข้ากับธุรกิจของผมครับ แต่ที่พอเข้าใจก็ตรงที่บอกว่าปรับลดราคาสินค้าละครับ แต่เอาจริงๆนะครับ ต้นทุนสินค้าบางครั้งมันมาแพงนะครับ จะให้มาลดรราคาลงอีกผมกลัวว่ามันจะไม่คุ้มอะไรเลยนะครับ
ไจแอนท์
ตั้งแต่มี covid มาเนี่ยถึงแม้ว่าจะลดราคาสินค้ากันยังไงคนก็ไม่ค่อยใช้เงินกันหรอก เขาใช้กันเท่าที่จำเป็น ขนาดคนละครึ่งยังไม่มีใครอยากจะเอาเลยเพราะว่าไม่มีเงินเติม มันก็จริงอ่ะที่บทความนี้บอกทุกอย่างมันจะต้องมี กลยุทธ์ในธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้ใช้ได้กับทุกธุรกิจนะ จริงๆมันมีปัจจัยอย่างอื่นหลายอย่าง บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย
%Manat%
คนทำธุรกิจต้องหาหนทางให้ธุรกิจของตัวเองไปต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นการจับธุรกิจใหม่ ทำธุรกิจเพิ่มเติม หรือทำการรวมธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ หากว่าสามารถทำได้ ธุรกิจของคุณไปต่อได้ก็ดีใจด้วยครับ ผมเองไม่ใช่นักธุรกิจหรือนักลงทุน แต่ได้รับผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนชีวิตในรูปใหม่เหมือนกัน ทำยังไงได้ ต้องปรับตัวกันต่อไปนะครับ
ภานุวัฒน์
ธุรกิจจะเติบโตได้ต้องมีตัวช่วย มีเพื่อนที่ร่วมธุรกิจ จับมมือกันเพื่อให้สองคนได้ดำเนินงานต่อไปด้วยกันได้ เป็นแนวคิดที่ดีเลยครับ ต่างคนต่างทำงานของตัวเองไปไม่รอดหลอกครับ ในช่วงเวลาแบบนี้ มีอะไรืั้เี่พอทำแล้วไปด้วยกันได้ก็น่าจะเอามารวมกันครับ แต่ธุรกิจต้องไม่เหมือนกันนะครับเดียวจะเป็นเรื่องเป็นราวกันนะครับ